เชือกหลายเส้นรวมเป็นพลัง

     
         การเดินทางไปเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสัมมนาที่จังหวัดตราดในครั้งนั้นแตกต่างออกไปเมื่อผมได้รับหน้าที่ให้จัดหากิจกรรมเพื่อให้ผู้ร่วมสัมมนาได้มีโอกาสทำร่วมกันเกิดภาพของความร่วมมือกันตามเจตนารมณ์ของผู้นำองค์กร
        ทั้งๆที่รู้ว่ามันอาจต้องใช้เวลาในการเตรียมการ ไหนจะจัดหาอุปกรณ์ แต่ผมไม่ปฏิเสธเพราะถือเป็นโอกาสทองของการได้นำแนวคิดเชิงตรรกด้วยเชือกมาเพื่อให้ทุกคนได้คิดร่วมกันภายใต้คอนเซป “แตกต่างอย่างมีเป้าหมาย” และพูดหยอกล้อกับเพื่อนพ้องผู้ร่วมกิจกรรมว่า “ไม่สนุกแต่ฉลาด” โดยเปิดแนวคิดแรกว่า เราจะไม่สรุปอะไรทั้งนั้นจากกิจกรรมที่ทำในแบบคำพูด “เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.....”แต่เราเชื่อว่าบริบทของชีวิตในแต่ละคนจะตีความสิ่งที่ทำในวันนี้ได้แตกต่างกัน...ซึ่งล้วนจะนำไปสู่แง่คิดเชิงบวกของสัมพันธภาพองค์กร
       เริ่มที่เชือกซึ่งทุกคนได้รับไปล้วนแตกต่าง แล้วนำไปสู่การเชื่อมต่อเพื่อเกื้อหนุนกันไปสู่ภารกิจสุดท้ายที่ทุกคนจะได้ร่วมกันออกแบบความคิดของการนำลูกบอลไปสู่เป้าหมายโดยมีเชือกที่มาจากทุกคนยึดโยงไว้....ผมเห้นความลุ่มลึกของความคิดหลายกลุ่ม
      ผมได้เห็นแรงกดดันที่ทำให้ทุกคนหันหน้าเข้าปรึกษาหารือกันด้วยรู้ว่ามันคือความรับผิดชอบร่วมกันของชะตากรรมที่ได้มาอยู่ในกลุ่ม  ผมได้ใช้เทคนิควิธีในการสร้างผู้นำนอกรูปแบบขึ้น โดยเป็นคนที่ผมได้สอนการผูกเงื่อนเชือกไว้ล่วงหน้าเพื่อเป็นตัวแทนอาสาในการถ่ายทอดความรู้ผมเรียกพวกเขาว่า”ผู้หยั่งรู้” เมื่อกิจกรรมเริ่มขึ้นเราเพียงสร้างแรงกดดันให้ทุกคนที่ต้องเรียนรู้การผูกเงื่อนเชือกในเวลาจำกัดจากวิทยากรที่สอนเพียงครั้งเดียว  มันได้ก่อปฏิกริยาสำหรับผู้ที่ยังไม่สามารถทำตามได้ แต่เมื่อเราเฉลยว่าในกลุ่มเรามีผู้หยั่งรู้ ทุกคนต่างมองหาแล้วยอมรับที่จะเรียนรู้กับพวกเขา  มันก็เหมือนกับการที่หน่วยงานได้รับโจทย์ยากของการทำงานที่สั่งลงมา มันไม่ใช่เวลาที่จะตั้งคำถามแต่มันเป็นเวลาที่ต้องมองหาทางออกร่วมกันซึ่งแน่นอนว่าอาจมีคนที่มองเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์ก่อนใครทั้งที่เขาอาจไม่ใช่คนหัวแถวเลยก็ได้
    ความอิ่มเอมใจกลับมาเกาะกุมความรู้สึกของผมเมื่อผู้นำองค์กรได้ขึ้นเวทีเพื่อสรุปประเด็นความคิดจากการสัมมนา  กิจกรรมเงื่อนเชือกความคิดของผมเป็น1ในประเด้นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นข้อคิดว่า “ผมได้เข้าใจแล้วว่าหน่วยงานเรามีความแตกต่างเหมือนเชือกทั้ง 29 เส้นแต่เมือเอามารวมกันมันสามารถสร้างพลังความสำเร็จได้” ข้อสรุปนี้ เพื่อให้ทุกคนได้มองเห็นโอกาสของการก้าวเดินไปในทิศทางเดียวกัน
    ค่ำคืนนั้นทุกคนถือเชือกติดมือมาที่งานเลี้ยงโดยได้ถักเป็นเงื่อน SNAKE BONE เพื่อมารับรางวัล เป็นความคิดของผมเองที่อยากให้ทุกคนได้มีเวลาอยู่กับจิตใจของตนเองที่จะอดทนทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง มันอาจเริ่มจากสิ่งเล็กๆเช่นการถักเชือก ให้หัวใจได้มีเวลาไตร่ตรองเพื่อเปิดกกว้างยอมรับสิ่งที่ไม่เคยลองแต่นำไปสู่ความเข้าใจในตนเองหลังการจดจ่อต่อสิ่งใดสักสิ่ง มันอาจคล้ายกับคำว่า “สมาธิ”...มันอาจไม่ใช่ทุกคนที่เข้าถึงได้หรอกอันนี้ผมเข้าใจดี แต่อาจมีสัก 1 คนที่แว๊บความรู้สึกต่อสิ่งนี้ขึ้นมาตอนที่หยิบเชือกเก่าๆที่ผ่านการถักร้อยด้วยมือเราเองขึ้นมาดูรายละเอียดที่วนไปมาของเงื่อนแล้วก่อตัวเป็นผลงาน...ผมก็ถือทุกคนเป็นครูที่มาเติมเต็มความคิดของผมเช่นกัน งานครั้งนี้บรรลุเป้าหมายในใจของการเดินทางแล้ว....ขอบคุณทุกคน



                        

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น