....เชือกที่ยืดได้ : เป็นคุณสมบัติที่ทำให้งานบางสิ่งบรรลุเป้าหมาย แต่เชือกเหล่านี้จะใช้งานได้ไม่นานเพราะการยืดหยุ่นจนเกินความสามารถ จะทำให้เชือกไร้สภาพเร็ว หากต้องนำไปใช้ร่วมกับเชือกอื่นๆจะกลายเป็นจุดเปราะบางที่สุด....องค์กรก็เหมือนกัน
.....คงมีคนค้านความคิดนี้อยู่ไม่น้อย อันนี้ผมรับได้ และคงมีคำถามตามมาว่าถ้าไม่มีการยืดหยุ่นหรือตึงเกินไปก็อาจขาดได้เช่นกันไม่เช่นนั้นจะมีคำว่า “เดินสายกลาง”ให้ได้ยินหรอกหรือ...อันนี้ก็จริงครับผมยอมรับ แต่เราลองมาคิดกันไหม่ไม๊ว่าหากกติกาสังคมได้เปิดช่องว่างให้มีใครสักคนสามารถใช้สิทธิ์ที่จะไม่ต้องเป็นไปตามนั้นด้วยคำว่ายืดหยุ่น ที่อาจเกิดในสังคมหรือแม้แต่องค์กรเล็กๆ ด้วยเหตุผลว่ายอมๆกันเพื่อ ”ความสบายใจ” หรือหลีกเลี่ยงการปะทะกันในวันที่เราต้องร่วมหัวจมท้าย จากนั้นไปจะเริ่มมีคนกล้าที่จะขอใช้สิทธิ์นี้มากขึ้นๆ จนกลายเป็น”ค่านิยม”องค์กรที่เรายอมรับกัน
แล้ววันหนึ่งวันที่องค์กรของเราต้องเข้าสู่สภาวการแข่งขันเราอาจพบอุปสรรคที่เราเก็บซ่อนไว้ใต้พรมปรากฏขึ้นมาจนยากที่จะขับเคลื่อน การยืดหยุ่นเป็นสิ่งดีหากมันจะไม่ก้าวข้ามไปสู่ความหย่อนยานในกติกา และที่สำคัญการลดหย่อนผ่อนปรนให้มีคนที่ไม่ต้องเคร่งครัดกับข้อตกลงจะไม่ได้สร้างวินัยให้กับคนๆนั้นเช่นเดียวกับการให้อภัยในความผิดพลาด แต่กลับไปเพาะพันธุ์ความคิดให้กับคนที่เคร่งครัดได้เรียนรู้ที่จะตัวเองออกมาจากแรงกดดันในกติกาหันมาอยู่ฝากเดียวกันจนหมดสิ้น...ผมคิดเช่นนั้น
....ถ้าเชือกต้องเอามาผูกต่อกันให้ยาวออกไป เหมือนการทำงานที่ต้องเอาศักยภาพคนทั้งองค์กรมาประสานกันในการเคลื่อนสู่จุดหมาย คุณลองนึกภาพที่มีเชือกสัก 1-2เส้นที่ยืดหยุ่นได้ แน่นอนว่ามันจะเกาะเกี่ยวกับเชือกอื่นๆได้แน่นอน แต่ในวันที่เชือกทั้งเส้นต้องยึดโยงสิ่งใดจุดที่เปราะบางที่สุดจะเป็นจุดใดผมคงไม่ต้องอธิบาย
.....เราเลือกที่จะตั้งกติกาสังคมร่วมกันที่มาจากความคิดเห็นของทุกๆคน และดูแลรักษากติกานั้นให้ดี หากวันนึงเราไม่อาจเดินต่อได้ด้วยข้อตกลงที่อาจตึงหรือหย่อนเกินเราสามารถร่วมคิดร่วมแก้ไข แต่ไม่ปล่อยให้มีช่องโหว่เสมือนรูเล็กๆในเขื่อนขนาดมหึมาทีรอวันขยายตัวจนเกินกว่าแก้ไข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น